เที่ยวบึงบอระเพ็ดวันที่ไม่มีบัวแดง แต่มีลุงสุนทร
นั่นนกปากห่าง
นั่นนกอ้ายงั่ว
นั่นนกยาง
โน่นๆๆ กลุ่มโน้นนกนางนวลแกลบเล็ก
ฯลฯ
เสียงคำบรรยายดังเป็นระยะ มาจากท้ายเรือที่ขับโดยคุณลุงสุนทร
.
.
ณ บึงบอระเพ็ด สถานที่ๆเราไม่เคยนึกอยากจะมาเลยสักครั้ง
ด้วยความที่เราไม่เคยรู้เลยว่าบึงบอระเพ็ดมีอะไร มาแล้วจะเที่ยวอะไร มาแล้วจะสนุกตรงไหน
ทริปวันนี้เริ่มต้นขึ้นจากคำชวนของสามี
เราเดินทางมาถึงนครสวรรค์โดยที่ไม่มีแผนในใจเลยว่า เราจะไปเที่ยวไหน เพราะสถานการณ์โควิดทำให้เราเข็ดกับการวางแผนล่วงหน้า (แล้วสุดท้ายก็ผิดแผน เพราะไม่ได้ไป เนื่องจากที่ๆจะไปโควิดระบาดหนัก)
สามีเป็นคนเริ่มต้นชวนว่า มาถึงนครสวรรค์ เราไปเที่ยวบึงบอระเพ็ดกันเถอะ
เราอิดออดมาก เพราะเราไม่เห็นจะนึกออกเลยว่าจะไปทำไม
นั่งเรือหรอ ไม่เห็นชอบเลย
ชมวิวหรอ จะสวยสักแค่ไหนกันเชียว
น้ำจะมีเหรอ จะเดินเรือได้หรอ ตลอดทางที่ขับรถผ่านมาชะโงกดูน้ำในแม่น้ำก็เห็นบางส่วนแล้วจนเห็นผืนดินด้านล่างด้วยซ้ำ
ไม่อยากเจอคนเยอะ นั่งเรือจะต้องนั่งกับคนอื่นหรือเปล่า
ฯลฯ
คำถามและคำบ่นจากเราพรั่งพรูออกมาไม่ขาดสาย ด้วยความไม่อยากไป
สามีทำหน้าที่โทรเช็คทุกส่วน ทั้งศูนย์บริการนักท่องเที่ยว และคนเดินเรือ
น้ำไม่แห้ง เดินเรือได้
มีเรือให้บริการ จองแล้วแบบเหมาลำ ไม่ต้องกลัวคนอื่น
บัวแดงไม่มี มีแต่บัวหลวง และเจ้าหน้าที่แนะนำให้ไปช่วงเย็นเพื่อดูพระอาทิตย์ตกดิน
เมื่อสามีเตรียมทุกอย่างให้พร้อมขนาดนี้ เราก็คงจะปฏิเสธไม่ได้แล้ว
ไปก็ไป เราบอก
นครสวรรค์อากาศดี บ้านเมืองสะอาด ถนนหนทางสวยงาม
เราตั้งกูเกิ้ลแมพเพื่อจะไปบึงบอระเพ็ด แต่ก็งงตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เพราะผลลัพธ์ในกูเกิ้ลแมพ มีบึงบอระเพ็ดหลายที่เหลือเกิน
แล้วเราต้องไปบึงบอระเพ็ดไหนละเนี่ย
เราถามกันเอง แล้วก็ตัดสินใจว่า เอาบึงบอระเพ็ดลิสต์แรกในกูเกิ้ลแมพแล้วกัน 5555
ซึ่งถ้าคุณอยากจะไปลงเรือเที่ยวชมบึง เราต้องบอกคุณตรงนี้ว่า มันผิดที่!
เพราะบึงบอระเพ็ดลิสต์แรกบนกูเกิ้ลแมพ ตั้งอยู่บนพระนอน ตะเคียนเลื่อน ซึ่งจุดนี้เรามารู้ทีหลังว่า มันเป็นจุดที่เอาไว้ส่องนก ไม่ใช่ลงเรือชมบึง และตอนนี้ก็ปิดปรับปรุงอยู่ด้วย
ถ้าจะไปลงเรือ คุณต้องเซิจ “ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวบึงบอระเพ็ด” ถึงจะถูกต้อง
ซึ่งนักท่องเที่ยวมักหลงทางกันเยอะ เนื่องจากบึงบอระเพ็ดมีอาณาเขตที่กว้างใหญ่มาก กินเนื้อที่ไปหลายตำบล และมีหลายจุดที่สามารถไปได้
ไปถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เราก็พบกับลานจอดรถกว้างใหญ่
มีเรือถีบให้บริการฟรี แต่ถูกล่ามโซ่ไว้ เราเลยไม่ได้ใช้บริการ 😭
วันที่เราไปไม่มีนักท่องเที่ยวเลย เนื่องจากเป็นวันธรรมดา
และได้มารู้ทีหลังด้วยว่าตอนนี้ไม่มี “บัวแดง” ไฮไลท์ของบึงบอระเพ็ด ที่จะบานสะพรั่งต้อนรับเราไปทั้งบึง และนักท่องเที่ยวก็มักจะชอบเก็บภาพกับบัวแดงนี่แหละเมื่อมาถึงที่นี่
พอไม่มีบัวแดง การท่องเที่ยวบึงบอระเพ็ดเลยซบเซาลงไป ประกอบกับโควิดอีกก็เลยยิ่งเงียบเลย
ส่วนสาเหตุที่ไม่มีบัวแดงให้ชม เนื่องมาจากภัยแล้งตั้งแต่ปีที่แล้ว (2562) ทำให้บัวแดงตายหมดเลย
เราได้ยินแล้วก็รู้สึกกร่อยๆลงไปอีก ว่าไฮไลท์ก็ไม่มี แล้วจะเหลืออะไรให้เราดูอีก
แต่มาถึงที่ นัดเรือไว้แล้วก็เปลี่ยนใจไม่ได้แล้ว เราคิดแบบนี้
สี่โมงครึ่ง คือเวลาตามนัด
เราลงเรือกับคุณลุงคนหนึ่ง ที่ทำหน้าที่ขับเรือให้เราในวันนี้
คุณลุงใส่แว่นกันแดดสีดำ อายุค่อนข้างมากแล้วแต่ยังดูแข็งแรงและกระฉับกระเฉง แว้บแรกที่เห็นคุณลุงไม่ค่อยพูดเท่าไหร่
เมื่อเรือออกจากท่า สายลมเย็นพัดเข้าใบหน้าเรา
แสงแดดยามเย็นแม้จะยังไม่อ่อนแรงลง แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกร้อน เพราะไอระเหยจากบึงและความสดชื่นของสายลมที่ปะทะเข้ามาหา ทำให้เราคลายร้อนลงได้อย่างน่าประหลาดใจ
แสงระยิบที่แตะต้องบนผืนน้ำ เหมือนอัญมณีที่เจิดจรัสยามต้องแสงไฟ บึงบอระเพ็ดในวันนี้ไม่มีเรือลำอื่นเลยนอกจากเรา
“สวยจังเลย” เรายิ้มกว้าง และพูดอย่างตื่นเต้น ก่อนเดินกระเถิบออกไปที่หัวเรือ พร้อมนั่งลงกับพื้นเรือเพื่อให้ได้ซึมซับบรรยากาศอย่างใกล้ชิด
นั่นนกปากห่าง
นั่นนกอ้ายงั่ว
นั่นนกยาง…
โน่นๆๆ กลุ่มโน้นนกนางนวลแกลบเล็ก
คุณลุงเห็นท่าทีตื่นเต้นของเราเหมือนไม่เคยเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้ามาก่อน เริ่มทำหน้าที่ในการบรรยายว่า นกนั้นคืออะไร นกนี้คืออะไร
นกอ้ายงั่วน่ะ มันเหมือนงู โน่นๆ ดูคอมันซิ เหมือนงูไหม – คุณลุงดับเครื่องเพื่อเบาเสียงเครื่องยนต์เรือ และคุยกับเราได้ชัดเจนขึ้น
มองไปทางที่คุณลุงชี้ เราเห็นนกตัวใหญ่อยู่ตัวหนึ่งลำตัวเปียกชุ่ม กำลังเกาะอยู่บนกิ่งไม้เหมือนว่ามันกำลังใช้ลมและแสงแดดจากธรรมชาติเป่าตัวของมันให้แห้ง
และใช่เลย คอมันเหมือนงูอย่างที่ลุงบอก
มันเปียกหรอคะ หนูว่ามันเปียกนะ – เราถามลุง
ใช่หนู … มันลงไปว่ายน้ำแล้วเอาปลามากิน มันว่ายเหมือนปลาเลย พอมันได้ปลา มันก็มาผึ่งลมอย่างที่หนูเห็นนี่ละ – ลุงบอก
มันว่ายน้ำได้ด้วยหรอคะ !! หนูไม่รู้มาก่อนว่านกมันจะว่ายน้ำได้ !!? – เราตื่นเต้นมาก ถามลุงอย่างตรงไปตรงมา
ว่ายได้สิ แต่มันก็ชูคอกับหัวขึ้นมา จนเหมือนงูนั่นแหละ บางคนเค้าเลยเรียกมันว่านกคองูน่ะหนู – ลุงอธิบายต่อ
หนูไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลยค่ะ หนูเป็นคนกรุงเทพฯ พวกนก หนูก็รู้จักไม่กี่ชนิด ต้นไม้หนูก็ไม่ค่อยรู้จัก ว่าแต่นี่ต้นอะไรอะคะ
เราชี้ไปที่ต้นอะไรสักอย่าง ที่ขึ้นอยู่บนเกาะตรงกลางที่มีพื้นดิน
“กระถินไงหนู มีเยอะแยะเต็มไปหมดเลย แล้วเกาะตรงนี้ที่หนูเห็น ถ้าเราโชคดี เราจะเจอจระเข้มาอาบแดดด้วยนะ”
ขณะที่ดับเรือ เรือเราก็ลอยเคว้งในบึงและกระเพื่อมไหลไปตามแรงน้ำ จนเข้าใกล้เกาะที่ลุงว่า
พอลุงบอกว่ามีจระเข้ เท่านั้นแหละ เราก็แอบกลัวขึ้นมาทันที
“มีจระเข้ด้วยหรอคะ แล้วถ้ามี มันจะกัดเรามั้ยคะ” เราถามพร้อมเบี่ยงตัวเข้ามาในเรือแบบหวั่นๆ
“จระเข้มันกลัวคนนะหนู บางทีเราเอาเรือเข้ามาแบบเนียะ มันได้ยินเสียงมันก็หนีแล้วมันเห็นเรามันหนีแล้ว” ลุงบอก
“อ้าว แล้วในข่าวที่เจอจระเข้แล้วชาวบ้านกลัวมันไปทำร้ายหรือกัดคนล่ะครับ นี่คือมันเป็นจระเข้ที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติเหรอครับ ผมนึกว่ามันหลุดมา” สามีเราถามบ้าง
“ข่าวมันก็ลงไปเรื่อย จระเข้พวกนี้มีอยู่แล้ว แล้วมันก็กลัวคนด้วย มันไม่ทำร้ายคนหรอก เห็นเรามันก็หนีแล้ว ลุงถึงบอกว่าถ้าเราโชคดี เราจะเห็นมัน” ลุงอธิบาย
หลังบรรยายธรรมชาติของจระเข้จบ คุณลุงก็ติดเครื่องและพาไปต่อ
“ทำไมถึงเรียกว่าบึงบอระเพ็ดหรอครับ” สามีเราสงสัยต่อ
“แต่ก่อนมันมีบอระเพ็ดเยอะไง เคยกินไหม บอระเพ็ดที่มันขมๆน่ะ เค้าเลยเรียกว่าเป็นบึงบอระเพ็ด” ลุงตอบ
ระหว่างนั้นเราก็อยู่ไม่นิ่ง ผลุดลุกผลุดนั่งไปดูนก ดูวิว ถ่ายรูปทุกมุมของธรรมชาติ เราบอกว่าไม่ค่อยมีบัวเลยเนอะ คุณลุงเลยบอกว่า
“บัวแดงมันตายหมดเลย เพราะน้ำแห้งปีที่แล้ว เหลือแต่บัวหลวง เดี๋ยวลุงจะพาไปตรงแถวกอบัวนะ” คุณลุงบอกเหมือนปลอบใจเรา
ระหว่างทางเราดื่มด่ำกับธรรมชาติอย่างเต็มที่ ผลุดลุกผลุดนั่งดูนก ถ่ายรูปมุมนั้นมุมนี้อย่างไม่รู้เบื่อ
ความสุขของเราในวันนี้เกิดขึ้นอย่างไม่ตั้งตัว มันถูกแสดงออกมาในรอยยิ้มที่เมื่อเราได้มองรูปทุกรูปที่ถ่ายในวันนี้ในภายหลัง มันเป็นรอยยิ้มที่หายไปมานานมากแล้ว ตั้งแต่เราโตเป็นผู้ใหญ่
ขณะที่เราปล่อยใจไปกับสายน้ำและความสวยงามตามธรรมชาติ มีสิ่งหนึ่งหยิบยื่นมาตรงหน้าเราด้วยความประหลาดใจ
คุณลุงยื่นดอกบัวสีชมพูสดใสมาให้เราสองดอก
เราดีใจมากจนยิ้มไม่หุบ ขอบคุณคุณลุงเสียยกใหญ่ แถมลุงไม่ได้ให้เราแค่คนเดียว ยังอุตส่าห์เด็ดเม็ดบัวสดๆ ยื่นส่งให้สามีเราอีกด้วย (อร่อยมากกกกก)
และเมื่อเหลือบมองไปที่ท้ายเรือ พระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลงทุกที ปรากฎเป็นรัศมีดวงใหญ่ ส่องทอประกายอยู่ด้านหลังลุงพอดี
“ลุงเท่ห์มากเลยค่ะ ข้างหลังลุงมันเป็นเงา มีแสงพระอาทิตย์ ลุงเท่ห์มาก!!” เราตะโกนบอกลุงแข่งกับเสียงเรือ
“ขอบคุณครับ” ลุงยิ้ม พูดตอบรับอย่างไม่มีปฏิเสธ หลักฐานมันฟ้องเนอะลุงเนอะ 55
เราเริ่มรู้สึกว่าคุณลุงเริ่มไว้ใจ และให้ความเป็นกันเองจากเราพอสมควร เราเลยถามเรื่องส่วนตัวกับคุณลุงเพราะอยากรู้จักลุงมากกว่านี้ แล้วก็ได้ความว่า…
ลุงชื่อลุงสุนทร
พื้นเพเป็นชาวนครสวรรค์แต่กำเนิด และมีอาชีพขับเรือมาโดยตลอด
ลุงขับพาเที่ยวชม ดับเครื่องคุยเป็นระยะ เพราะลูกค้าคู่นี้คุยเก่งและขี้สงสัยเหลือเกิน
มีช่วงนึง ลุงบอกว่า
“นี่ดีนะ ที่ได้ลุงมาขับ เป็นคนอื่นนะ เค้าวนๆแล้วก็พากลับแล้ว”
ก็เห็นว่าน่าจะจริงตามลุงบอก เพราะตามปกติ เรือจะพาชมแค่ 1 ชั่วโมง แต่ลุงพาเราออกไปถึง 2 ชั่วโมงเต็มๆ
ขับไปดับเครื่องไป ที่ดับเครื่องเพราะคุยแล้วไม่ได้ยิน เสียงเครื่องมันดัง แล้วคุยเก่งไง ติดๆดับๆ อยู่ยังงั้นตลอดทาง
“เราออกจากตรงนี้กันเถอะ ลุงอยากจะพาหนูไปดูพระอาทิตย์ดวงโตๆตกตรงหน้า” ลุงบอกเรา พร้อมเริ่มขับเรือเร็วขึ้น เพราะตอนนั้นพระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลงมากแล้ว
เมื่อเรืออ้อมคุ้งน้ำมาในจุดที่เห็นพระอาทิตย์ตรงหน้า ลุงก็บ่นว่าเรามาช้าไปนิดเดียว เพราะว่าพระอาทิตย์เริ่มตกลงในน้ำจนเกือบลับขอบฟ้าแล้ว
“ไม่เป็นไรค่ะลุง แค่นี้หนูก็ซึ้งน้ำใจลุงมากแล้วขอบคุณลุงมากๆนะคะ” เราบอกลุงอย่างจริงใจ
ลุงขับเรือไปเรื่อยๆ แล้วหยุดเรือนิ่งๆ ที่บริเวณทุ่นอะไรสักอย่างที่ลอยอยู่กลางน้ำ และพอเรามองเข้าไปก็เห็นว่ามันเป็นเหมือนบ้านพักคนงาน มีข้าวของเครื่องใช้พอประมาณอยู่บนนั้นและรายล้อมไปด้วยเครื่องที่มีท่อยาวๆอยู่ด้วย
“อันนี้คือเครื่องสูบน้ำ เอาไว้ลอกบึงไม่ให้มันตื้น น้ำจะได้ไม่แล้ง ส่วนบ้านพักที่เห็นก็เอาไว้ให้คนงานนอน เค้าก็จะมาเปลี่ยนกะกันนอน มากันทีอาทิตย์สองอาทิตย์ และเค้าเพิ่งมาเมื่อไม่กี่วันนี้เอง” ลุงบอก ทำให้เรารู้ว่าลุงตั้งใจพาเรามาแวะ เพื่ออธิบายให้ความรู้สำหรับมนุษย์กรุงเทพฯ ที่ตื่นเต้นไปทุกอย่างที่เห็นที่นี่อย่างเราสองคน
ตะวันลับแล้ว ลุงพาเรากลับเข้าฝั่ง ณ จุดที่เราลงเรือเพื่อส่งเราขึ้นท่าโดยสวัสดิภาพ
นับเป็นเวลาเกือบสองชั่วโมงที่ทำให้เรามีความสุขจนออกนอกหน้าแบบปิดไว้ไม่มิด เราสวัสดีปีใหม่ลุงล่วงหน้าและลุงก็ให้พรกลับมา ซึ่งถือเป็นพรจากผู้ใหญ่คนแรกในวันปีใหม่นี้ของเราเลย
ทริปนี้เราอาจจะไม่เห็นบัวแดงบานสะพรั่งอยู่เต็มบึงเหมือนคนอื่นๆ
แต่เรามีลุงสุนทรที่ทำให้รอยยิ้มเบิกบานในใจเรา
และทำให้เรารู้สึกว่าเป็นวันที่เรามีความสุขที่สุดในปี 2563 เลยก็ว่าได้
ต้องขอบคุณลุงสุนทรมากๆ ที่เมตตาในการเป็นไกด์ที่น่ารัก และใจดีกับเราทั้งคู่
และที่สำคัญที่สุด คือ ต้องขอบคุณสามี ที่เนรมิตรอยยิ้มบนใบหน้าของเราที่หายไป กลับคืนมาได้ทั้งวัน
เราสัญญาว่าเราจะกลับไปอีกครั้งแน่นอน 🙂