ติด SEO บน Google หน้าแรก ยังจำเป็นอยู่ไหม

เรามาถึงยุคที่มนุษย์จ่อมจมกับ Social Network กันทุกวัน ทั้งวัน และทั้งคืน

แถมหลายๆแพลตฟอร์มก็พยายามพัฒนา ให้มนุษย์เหล่านี้ติดกับดักอยู่กับแพลตฟอร์มของตัวเองให้นานมากขึ้นเรื่อยๆ

Top Referrer ของหลายๆเว็บไซต์ ก็มาจาก “Social Network” ด้วยเช่นกัน

จะด้วยการทิ้ง URL ไว้ให้อ่านต่อ ด้วยคำโปรยบน Social Network ที่น่าสนใจ หรือด้วยวิธีการใดก็ตาม แต่นั่นคือการเปิดประตูเพื่อต้อนรับ Traffic มหาศาลจาก Social Network นั่นเอง

ถ้าใครที่ติด GA แล้วเข้าไปดู Stat จะเห็นว่า Referer ที่เข้ามาในเว็บไซต์เราจะแบ่งออกเป็นหลายช่องทางตามรูปด้านล่าง

ที่มา: https://www.smartinsights.com/search-engine-marketing/search-engine-statistics/

จากรูปด้านบน อยากให้โฟกัสดู “Direct” ที่มีสัดส่วนถึง 48.9% (สีเขียว)

ซึ่งคำจำกัดความของ Direct นี้ไม่ได้หมายถึง User พิมพ์ www เป็นชื่อเว็บไซต์เราตรงๆ เพียงเท่านั้น แต่มันรวมถึง “การพิมพ์และคัดลอก URL แล้ว Paste ลงช่อง Address โดยตรงเพื่อเข้าเว็บไซต์” ด้วย

นั่นหมายความว่า URL ที่แชร์อยู่บน Social ใดๆก็ตาม user สามารถที่จะคัดลอกลิงค์แล้วส่งต่อกันได้ด้วย ซึ่ง traffic ส่วนนี้จะถูกรวมอยู่ใน “Direct” ก้อนนี้ด้วย และมันเรียกว่า “Dark Social

จุดนี้ จึงมีคำถามเกิดขึ้นว่า “แล้วเรายังจำเป็นจะต้องปั่น SEO ของเว็บไซต์เรา ให้ติดหน้าแรก Google อีกหรือไม่?” ในเมื่อ Traffic ของ Social Network มันก็ติด Top แถมมาแรงแซงทางโค้ง ทำหน้าที่ของมันได้ดีอยู่แล้ว

คำตอบคือ ยังไงก็ต้องทำ และยิ่งต้องทำถ้าแบรนด์คุณยังไม่เป็นที่รู้จัก

ให้เราลองนึกว่า ถ้าเป็นตัวเราเอง แล้วเราอยากจะซื้ออะไรสักอย่าง แต่ก็ไม่มีแบรนด์อะไรในใจเลย กรณีนี้ ร้อยทั้งร้อยต้องหามันใน “Google”

สมมติว่าเราอยากได้ “กาแฟแคปซูล” ดีๆซักยี่ห้อนึง แล้วดันไม่รู้เลยว่าจะซื้อยี่ห้อไหนดี

สิ่งแรกที่เราทำ คือ เซิจใน Google “กาแฟแคปซูล”

SERP (Search Engine Result Page) ที่เราได้ คือภาพด้านล่าง

จะเห็นว่า Screen แรกของผล Search ถูกจองพื้นที่ด้วย Ad ล้วนๆ

แถมเป็น Ad ที่มาจากแบรนด์ที่ติดตลาด เป็นที่รู้จักอยู่แล้วด้วย .. ถ้าเราเป็นแบรนด์ใหม่ เราคงเหนื่อยมากๆ..

ไหนจะต้องสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก.. แถมเมื่อรู้จักแล้ว ยังจะต้องแพ้กับการติดอันดับบน Google หน้าแรกอีก!

เพราะพฤติกรรมของ User เมื่อเห็นผล Search แบรนด์ที่เค้ารู้จักในหน้าแรก ย่อมมีความคล้อยตามแล้วว่า “ทดแบรนด์นั้นไว้ในใจ” เพราะเคยได้ยิน เคยได้เห็นแบรนด์เหล่านี้มาก่อนแล้ว จึงมีแนวโน้มว่าจะซื้อแล้ว 50%

อีก 50% คือการมองหาไปรอบๆ อีกสัก 2-3 page (ไม่เกินนี้) เพื่อเปรียบเทียบว่าแบรนด์ที่ทดไว้ในใจนั้น มีคู่แข่งเพื่อจะเปรียบเทียบและเป็นตัวเลือกอื่นอีกหรือไม่

ถ้าคุณไม่สามารถไต่ SERP ให้เป็นอันดับแรกๆของ Google ได้ แบรนด์คุณก็จะไม่ถูก”ทดไว้ในใจ” สำหรับ user เลย

หลายๆแบรนด์ใช้วิธีแก้ปัญหาด้วยการซื้อ Ad (อย่างผล search ตัวอย่างที่เราเห็น)

แต่คุณเชื่อไหมว่า ถ้าคุณ Optimized Website ของคุณดีๆ .. คุณก็สามารถติดอันดับ SERP หน้าแรก ต่อจาก Ad เหล่านั้นได้อย่างไม่ยากเย็น

การติดอันดับ SERP หน้าแรกมีหลายปัจจัย และด้วยความที่บทความนี้เราอยากโฟกัสที่ “ความสำคัญของการติดหน้าแรกบน Google” เราจึงขออธิบายส่วนนี้ไว้ในบทความหน้าเนอะ

กลับเข้าบทความนี้อีกที .. เราพอจะรู้แล้วใช่ไหมว่า ความสำคัญของอันดับ Google มันมากแค่ไหน

คำถามต่อไป คือ เมื่อ user “เห็นผล search” แล้วเค้าทำอะไรต่อ?

ไม่ใช่ user ทุกคนที่เห็นผล search แล้วจะคลิกดูทุกเว็บ

จากสถิติการคลิกพบว่า user ไม่คลิก บน Desktop 34.85% และบน Mobile สูงถึง 56.10% แถมสัดส่วนที่คลิกน้อยกว่าจะเกิดขึ้นกับแบรนด์ที่ไม่เป็นที่รู้จักด้วย

สถิติการคลิก 20 อันดับแรกบน Google (ต.ค. 2020) โดยเปรียบเทียบระหว่าง Brand และ Non Branded ที่มา: https://www.advancedwebranking.com/ctrstudy/

ดังนั้น จึงเป็นข้อสรุปว่า อย่างไรก็ตาม Google ยังคงจำเป็นต่อธุรกิจเสมอ แม้แต่แบรนด์ที่เป็นที่รู้จักแล้วก็ยังมีการแข่งขันสูงมาก เพื่อให้ user เลือกที่จะซื้อสินค้าและบริการในแบรนด์ของตัวเอง ดังจะเห็นได้จากพฤติกรรมของการซื้อ Google Ads เพื่อให้ติดอยู่หน้าแรกเสมอ

แล้วถ้ายิ่งธุรกิจของเรายังสร้างแบรนด์ไม่สำเร็จ / แบรนด์ยังไม่เป็นที่รู้จักด้วยแล้ว มันยิ่งจะยากขึ้นถ้าเราไม่เล็งเห็นความสำคัญส่วนนี้ ที่จะเป็นประตูบานใหญ่ที่เปิดต้อนรับลูกค้าหรือผู้ใช้งานของเราให้ก้าวเข้ามา

บทความต่อไปจะมาแชร์เทคนิคการไต่อันดับ Google โดยไม่ต้องเสียเงินโฆษณากันค่ะ 🙂

Author: AbaiyaMook