มิตรรักชาวกุ้งดอง : กุ้งเน้นๆเต็มคำ ดื่มด่ำไปพร้อม Passion ของเจ้าของร้าน
บูทเล็กๆ กินอาณาเขตแค่ 1 ล็อค
ที่ลานหน้าสยาม ดิสคัฟเวอรี่ในวันนี้ ขับเคลื่อนไปด้วย Passion ของสาวเจ้าของร้านเสื้อผ้าคนหนึ่ง
.
“ร้านเสื้อผ้า!!?”
ใช่ .. เธอขายเสื้อผ้า แต่ผันตัวเองมาทำงานอดิเรกด้วยการคิดค้นเมนูกุ้งซาชิมิดองน้ำปลากวน
.
“เราเป็นคนชอบดื่ม .. ไปเที่ยวญี่ปุ่นเราก็ไปดื่มตามข้างทาง บวกกับการที่เราก็ชอบกินอาหารแซ่บๆด้วย ..
.
กุ้งที่เรากิน มันไม่ได้อย่างใจเรา .. เราทำแล้วทำอีก ปรับสูตรแล้วปรับสูตรอีก .. จนรู้สึกว่า .. เอออ นี่แหละ .. เราจะทำรสชาติแบบนี้ออกขาย” — เธอเจื้อยแจ้วให้เราฟังต่อเนื่อง ขณะที่มือของเธอก็กำลังปรุงอาหารไปเรื่อยๆ
.
“ดีเนอะ ไปเที่ยวญี่ปุ่นแต่ได้อาชีพกลับมา” – เราต่อบทสนทนา
.
“เรารู้สึกว่าเราชอบอะไร เราก็ทำอย่างนั้น .. จริงๆเราขายเสื้อผ้า มันไม่น่าจะมาทำอะไรแบบนี้เลยใช่ไหม ..
แต่กุ้ง เราก็ชอบกินเหมือนกันไง .. แล้วพอไปๆมาๆ รายได้มันจะแซงหน้างานหลักเราแล้วนะเนี่ย (หัวเราะ)” เธอบอก
.
รูปแบบหน้าร้านที่เธอตกแต่ง ประกอบด้วยป้ายที่เขียนด้วยลายมือน่ารัก บ่งบอกความตั้งใจและแพสชั่นที่เธอมีอย่างเต็มเปี่ยม .. ให้บรรยากาศร้านนั่งดื่มในญี่ปุ่นอย่างที่เธอบอกจริงๆ
.
ท่ามกลางบทสนทนา .. เสียงเพลงบรรเลงสไตล์ญี่ปุ่นถูกเปิดขึ้นจากร้านของเธอ เหมือนเป็น sound track ให้กับการพูดคุยของเราวันนี้ แม้จะเป็นบรรยากาศในงานตรุษจีนก็ตาม
“ลูกค้าบางคนบอกว่าของเราแพง” – เธอพูดต่อ
“แพงอะไร .. ให้กุ้งเยอะมาก.. ไหนจะมิรินอีก งาอีก” – เราตอบกลับทันที และเราคิดว่าการตั้งราคาของเธอเหมาะสมแล้ว เพราะเครื่องปรุงที่เธอใช้ มันไม่ใช่ราคาถูกๆ โดยเฉพาะมิริน
.
“ก่อนตั้งราคานะ เราคิดแล้วคิดอีก ว่าต้องตั้งแค่ไหน ตั้งยังไง ทุกอย่างเรามีเหตุมีผลนะ แต่เอาตามจริง กำไรก็ไม่ได้เยอะ แต่เราทำเพราะอยากทำ ..
เรากินแล้วเราชอบ เราก็ทำ เราก็ขายแบบที่เราชอบ.. ลูกค้าที่ชอบของๆเรา .. เค้ากลายมาขอเป็นแฟรนไชส์กันหมด.. แต่เราจำกัดแค่คนละ 10 ชุดนะ .. คือก่อนจะมาสั่งจากเรา คุณต้องหาลูกค้าให้ได้ก่อน 10 ออเดอร์ .. ไม่งั้นมันไม่เฟรช” — เธอเผย
.
“ควบคุมคุณภาพยอดเยี่ยม” – เราชม
“เราอยากให้เค้ากินของดีๆ .. ไม่ได้หวังจะอะไรเยอะ .. กุ้งเนี่ยมันต้องกินเย็นๆ ..
บางร้านที่เค้าทำ เค้าเอากุ้งมาแบไว้หน้าร้านคลุกน้ำแข็งให้มันพอเย็น … แบบนั้นเราไม่เอานะ สกปรก .. เจอฝุ่น เจอความร้อน กุ้งก็ไม่เฟรชแล้ว .. เราเลยใช้วิธีเขียนป้าย ไม่วางของหน้าร้านเลย เพราะเราจับแช่ในถังน้ำแข็งหมด .. ถ้าลูกค้าอยากได้ เราก็ทำให้จานต่อจาน..”
.
เรากวาดสายตามองรอบร้านก็เห็นจะจริงตามนั้น ไม่มีอะไรบ่งบอกเลยว่าร้านนี้ขายอะไร หน้าตาแบบไหน นอกจากรูปเล็กๆบนแผ่นป้าย .. ที่จินตนาการไม่ออก ว่ามันจะเป็นยังไงเหมือนกัน..
“ทุกอย่างคือแพสชัน” เธอย้ำ
ระหว่างบทสนทนา และการเจื้อยแจ้วช่างพูดของเธอ .. การปรุงอาหารก็ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ .. ตาเราก็สอดส่องไปเรื่อยๆ
.
เธอเป็นคนมีสไตล์เป็นของตัวเอง .. รอยสักรอบตัวที่มีค่อนข้างเยอะ แต่ไม่ได้ทำให้เธอดูน่ากลัว..
มันกลับยิ่งย้ำให้ร้านของเธอมีความเป็นญี่ปุ่นอย่างเด่นชัดขึ้นไปอีก … บวกกับการช่างพูดช่างคุย และดวงตากลมโตที่แฝงแพสชั่นเต็มเปี่ยม ตลอดการทำอาหารนั่น ทำให้เราคุยกันยาวแบบไม่รู้เบื่อ แม้เราจะต้องตากแดดคุยก็ตาม
.
จริงๆบทสนทนายาวกว่านี้ คุยไปจนถึงเที่ยวญี่ปุ่น เธอไปมาหลายเมือง เจอพายุหิมะ เกือบตกเครื่องบิน ต้องแบกสัมภาระจูงลูก สารพัด.. เหมือนเพื่อนสาวที่ไม่เจอกันนานแล้วอัพเดทข่าวสารกัน … ทั้งๆที่เราเพิ่งรู้จักกันไม่ถึง 10 นาที
.
สุดท้ายเราบอกว่าขอรูปสวยๆ 1 รูปสิ … เธอเดินมาหน้าร้านพร้อมคว้า mask มาปิดหน้า เพราะเธอรู้สึกว่าวันนี้เธอแต่งหน้าไม่ได้จัดเต็ม 555
แต่เราว่าเธอก็น่ารักด้วยนิสัยเธออยู่แล้วนะ
.
สุดท้ายนี้ ใครอยากลองทานอาหารเปี่ยมสุขคลุกแพสชันแบบนี้ สั่งเดลิเวอรี่ได้นะจ๊ะที่เพจ มิตรรักชาวกุ้งดอง
.
หรือถ้าใครผ่านมาสยามดิสช่วงนี้ แวะมาที่ด้านหน้า หรือด้านข้างนี่แหละ (เราหลงทาง) จะมีบูธตรุษจีน รวมเอาหลายๆร้านไว้ด้วยกัน ขายถึง 29 ม.ค. นี้จ้า