Survey จะสัมฤทธิ์ผลได้อย่างไร?

Survey มีได้หลายแบบ

  • จากการลงพื้นที่แล้วสำรวจ
  • จากการสอบถามผู้คนที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย
  • จากการมโน (อันนี้เพิ่มไว้ให้มันดูเยอะเฉยๆ 5555555)

Survey ที่สัมฤทธิ์ผลคืออะไร?

มันคือสิ่งที่ เมื่อนำผลสรุปที่ได้จากมันไปใช้แล้วก่อให้เกิดความสำเร็จของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

แล้วสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ว่า มันคืออะไรอีกล่ะ?

สิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ต้องการความสำเร็จ มันคือ “โจทย์ที่เราจะต้องตั้งไว้ก่อนทำการ Survey”

ก่อนทำการสำรวจอย่าเพิ่งลงมือทำโดยไม่มีโจทย์

แต่สิ่งที่เราควรจะทำอย่างแรก คือ ตอบให้ได้ก่อนว่า “เราต้องการการสำรวจนี้ไปเพื่ออะไร เพื่อใคร และอย่างไร?”

ถ้าเรายังไม่เข้าใจตัวเอง ว่าเราจะทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ไปเพื่ออะไร .. มันคงยากที่จะเดินไปให้ถึงเป้าหมายโดยไม่หลงทางจนเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์

เป็นที่น่าเสียดาย ถ้า Survey ถูกจัดทำขึ้นมาเพียงเพื่อเป็นกระบวนการหนึ่งที่ “ต้องทำ” แต่ไม่รู้ว่า “ทำไปเพื่ออะไร”

การตั้งโจทย์ คือ การปักหมุดเพื่อให้ได้มาซึ่งกระบวนการในการทำ Survey เช่น

ถ้าเรามีโจทย์ว่า

“จะทำยังไง ให้คนทิ้งขยะลงถัง”

มันดูเหมือนเป็นโจทย์ที่มีคำตอบอยู่แล้วใช่ไหม

บางที พอตั้งโจทย์นี้ คนอาจจะหัวเราะแล้วตอบออกมาเลยก็ได้ ว่าจะไปยากอะไรล่ะ ก็เอาถังขยะตั้งไว้เยอะๆสิ คนจะทิ้งก็ทิ้งเองนั่นแหละ

ทว่าในความเป็นจริง มันไม่ใช่แบบนั้นเสมอไป

การจะทิ้งขยะให้ลงถังแต่ละคน ถ้าเราลงสำรวจจริงๆ มันเกิดจากอะไรได้บ้าง ?

  • ถังขยะน้อยไป (ตามที่เราคิดเป็นสิ่งแรกโดยที่ยังไม่ทันลงสำรวจ)
  • คนมักง่าย และมองไม่เห็นความสำคัญว่าจะต้องทิ้งลงถัง
  • ถังขยะที่เราจัดวาง มองไม่ออกว่ามันเป็นถังขยะ (เรื่องนี้จริงนะ บางรูปแบบก็ไม่สามารถจะมองออก ว่ามันคือถังขยะจริงๆ)
  • คนเห็นถังขยะแล้ว แต่ทิ้งไม่ลงอยู่ดี เพราะถังขยะหย่อนให้ลงถังยากจนเกินไป
  • ถังขยะล้น จนไม่สามารถรองรับปริมาณคนในบริเวณนั้นได้
  • คนไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องทิ้งให้ลงถังขยะ เพราะรู้ว่ายังไงก็มีพนักงานมาเก็บ
  • ฯลฯ

จากโจทย์ข้างต้นเพียงแค่โจทย์เดียว นำมาซึ่งวิธีในการแก้ปัญหา และวิเคราะห์ รวมถึงวิธีในการลงสำรวจในมิติต่างๆ มากมาย

ถ้าเราสามารถลิสต์ออกมาได้ว่า ข้อสงสัยที่เป็นไปได้มีดังทุกข้อข้างต้น เราก็จะต้องมีวิธีในการสังเกตในการ Survey ที่เปลี่ยนไปเป็นอีกแบบนึง เช่น

  • ยืนสำรวจบริเวณหน้าร้านที่ก่อให้เกิดขยะง่ายๆ เช่น ไอศกรีม, กาแฟ หรือขนมทานเล่น ที่ทานแป๊บเดียวหมด จนต้องมองหาถังขยะเพื่อทิ้ง
  • จำลองสถานการณ์ทุกข้อ ที่จะตอบข้อสงสัยเราได้ เช่น จงใจให้ถังขยะล้น แล้วสังเกตพฤติกรรมของคน หรือ การใช้ถังขยะในรูปแบบต่างๆกันตั้งไว้ แล้วสังเกตผลที่ได้รับที่มันจะต้องแตกต่างกันอย่างแน่นอน

จากโจทย์ง่ายๆของบทความนี้ ดูมันจะเป็นเรื่องไร้สาระ

แต่มันก่อให้เกิดผล และนวัตกรรมต่างๆมาอีกมากมาย

  • ถ้าเราได้ข้อสรุปว่า คนไม่ทิ้งขยะลงถังเป็นเพราะมองไม่ออกว่าเป็นถังขยะ | เราก็ออกแบบถังขยะที่มอง 1 วินาทีก็รู้ ว่าต้องทิ้งที่นี่
  • ถ้าเราได้ข้อสรุปว่า ถังขยะล้น ไม่เพียงพอกับจำนวนคนทิ้ง | เราอาจจะต้องเพิ่มแม่บ้านในการเทถังขยะนั้นบ่อยขึ้น หรือคิดค้นนวัตกรรมในการย่อยสลายขยะในตัว หรือแม้กระทั่งหุ่นยนต์ถังขยะที่สามารถนำตัวมันเองไปทิ้งได้ทุกครั้งที่มันเต็ม
  • ถ้าเราได้ข้อสรุปว่า การทิ้งขยะ 1 ชิ้นในมือให้ลงถังนั้นมันยากเกินไป | เราอาจจะต้องออกแบบถังขยะให้มันรองรับกับคนที่ไม่ตั้งใจจะทิ้ง ทิ้งแบบสะเปะสะปะ ทิ้งแบบขอไปที ให้ทิ้งยังไงก็ลงให้ได้
  • ถ้าเราได้ข้อสรุปว่า คนไม่มีแรงจูงในในการที่จะต้องทิ้งให้ลงถัง เพราะยังไงก็มีแม่บ้านมาโกยให้อยู่ดี | เราอาจจะต้องสร้างกิมมิค ที่ทำให้เค้ารู้สึกว่า การทิ้งขยะให้ลงถังของเค้ามีความหมาย มีคุณค่า หรือมีผลตอบแทนทันทีแบบเป็นรูปธรรมให้เค้าได้รับ เช่น ทิ้งแล้วถังขยะหัวเราะ ทิ้งแล้วถังขยะเต้นได้ ทิ้งแล้วแลกกับการดูดวงฟรี ฯลฯ เป็นต้น

จะเห็นว่าเมื่อ “โจทย์” ชัด การลงสำรวจหรือการ Survey ก็ดูจะมีพลังที่ยิ่งใหญ่ ที่สามารถก่อให้เกิดสิ่งใหม่ๆ สิ่งดีๆ ที่เป็นแนวทาง ไปจนถึงการสร้างนวัตกรรมได้เลยในอนาคต

วันนี้คุณ Survey ให้สัมฤทธิ์ผลแล้วหรือยัง?

#ตั้งโจทย์ก่อนSurvey

🙂

Author: AbaiyaMook