Clubhouse คืออะไร ทำไมถึงเป็น App ยอดฮิตติดกระแส?
มีใครได้ลองเล่น clubhouse หรือยัง??
ตอนนี้มีเฉพาะบน iOS เท่านั้น และต้องได้รับการ invite จากคนที่เล่นอยู่ เราลองแล้วเราก็ว่าสนุกดี
เหมือนเราไปงาน talk ที่แบ่งเป็นห้องๆอยู่ที่เราว่าเราจะสนใจฟังห้องไหน
คนไทยส่วนใหญ่ตอนนี้จะแชร์ความเห็นเรื่องการใช้งาน clubhouse แล้วก็เหมือนยังหาไอเดียในการใช้ประโยชน์จากมันอยู่อย่างห้องนี้ที่ฟังอยู่นี่คือวิเคราะห์กันทั้ง business model เลยว่า clubhouse ทำเพื่ออะไร รายได้จากไหน หาเงินยังไง รวมไปถึง infrastructure ของเค้าที่จะรองรับคนในอนาคตเป็นไง บลาๆๆ ฝั่ง digital marketing เองก็มองว่าจะรับมือหรือใช้ช่องทางนี้ในด้าน mkt ยังไง คือ คนทุกด้านมารวมกันในห้องนี้หมดเลยทั้ง biz tech mkt enterpreneur ฯลฯ
จุดเด่นของ Club House ในความคิดของเรา ให้จินตนาการถึงคนที่มีชื่อเสียงระดับโลกที่เราชื่นชอบ ซึ่งในชีวิตจริงเราคงไม่มีโอกาสที่จะได้เข้าใกล้เค้า หรือต้องเสียเงินในการที่จะจ่ายเพื่อโอกาสในการเข้าไปฟังเค้าพูดด้วยซ้ำ แต่ Club House ลดช่องว่างนั้น เพราะทุกคน”เท่ากัน” ทุกคนมี 1 เสียงในการที่จะพูดเท่าๆกัน
ใครจะไปเชื่อว่า วันนึงเราจะมีโอกาสที่จะเข้าไปอยู่ในห้องที่มีดาราฮอลลีวู้ด, นักการตลาดชื่อดัง, นักธุรกิจชื่อดัง ฯลฯ ให้เราเข้าไปนั่งฟังไอเดียและเราสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้อย่างอิสระ เพราะในแอปจะมีปุ่ม “Raise” เพื่อยกมือขอโอกาสในการพูดหรือถามคำถามกับ “Moderator” ที่สามารถกดอนุญาตให้เราพูดได้
นอกเหนือจากนั้น
ด้วยอัลกอริทึมของ Clubhouse เวลาที่เราไป Follow บุคคลในแวดวงที่เราชื่นชอบและอยากติดตาม เมื่อไหร่ก็ตามที่บุคคลนั้นเป็น Speaker หรือเข้าไปร่วมในห้องไหน มันจะมีการแจ้งเตือนและ Suggestion ให้เราเห็น ทำให้เราเข้าไป join กับห้องนั้นได้ทันที
“อยากจะเป็นอะไร อยากจะทำอะไร ให้เอาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางสิ่งนั้น”
เราคิดว่าประโยคนี้อธิบาย Clubhouse ได้เป็นอย่างดี เพราะการเข้าไปเล่น เข้าไปติดตามคนในแวดวงที่เราชื่นชอบ ทำให้เหมือนเราไปอยู่ท่ามกลางสิ่งที่เราชอบได้ทุกวันทุกเวลา
ช่วงเวลาที่คนเล่นเยอะ และคึกคักที่สุด คือ ก่อนเวลาเข้างาน และหลังเวลาเลิกงาน
เราเองก็ฟังสองช่วงเวลานี้ในระหว่างขับรถ และก่อนเข้านอน มันน่าแปลกเหมือนกันที่เราไม่ได้รู้สึกเครียดในการฟัง Speaker พูดเลย แม้จะเป็นเรื่องหนักๆ เช่น เรื่องของการลงทุน , การตลาด หรือเรื่องของธุรกิจ ซึ่งดูเหมือนจะพัวพันกับงานทั้งนั้น เพราะความรู้สึกมันต่างกัน มันไม่ใช่การสัมมนา หรือเชิงวิชาการแบบ 100%
แต่ความรู้สึกเราคือ เหมือนเลิกงานก็มาเจอกัน มานัดเม้าท์มอยหรือสรุปประเด็นสำคัญกันต่อ เหมือนได้พักหลังเลิกงานแล้วนัดเพื่อนคุยมากกว่า และนี่คือการผ่อนคลายในรูปแบบหนึ่งของมนุษย์เงินเดือน
นี่คือที่มาว่า ทำไมหลายๆธุรกิจจึงจับตามองมากๆ สำหรับแอปนี้
มีไอเดียจากนักการตลาดและเป็นเจ้าของธุรกิจ (ระดับ Hi-End) แชร์ว่า clubhouse เหมาะกับธุรกิจของเค้า เพราะทุกวันนี้ เค้ามองว่าช่องทางต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบันมันไม่ตอบโจทย์เค้าเลย เพราะสิ่งที่มีให้เลือกในการ target มันก็ยัง “เกลื่อน” และไม่ตรงเป้าหมายของเค้า เพราะเค้าจับกลุ่ม Hi-End และค่อนข้าง Niche ทำให้รู้สึกว่ามันมีความ Exclusive มากขึ้นในการที่เค้าจะจ่ายเงินก้อนนึงเพื่อให้กลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้มา join กันในคลับ เพื่อ exhibition หรืออีเวนท์ใดๆ ที่ไม่เหมือนกับแพลทฟอร์มอื่นๆที่มีอยู่ในปัจจุบัน แถมเป็นการสื่อสารแบบ interactive กันได้แล้วรู้สึก”จริง” เพราะมันคือการพูดโต้ตอบกัน โดนที่ไม่ต้องเจอตัว และให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติมากขึ้น
แต่ก็มีดีเบจมาว่า ด้วยฟีเจอร์ ณ ปัจจุบันที่เห็น มันไม่ได้ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์เรื่อง Brand แต่มันเป็นการสร้าง “community” มากกว่า ซึ่งก็ต้องดูต่อไปในอนาคตว่า clubhouse จะมีเป้าหมายธุรกิจยังไงในอนาคต เพราะเค้าเล่นตั้งแต่วันแรกๆที่มี clubhouse ในไทย มาจนถึงวันนี้ เค้าบอกว่า “มันเปลี่ยนแปลงทุกวัน”ดังนั้น จึงมองว่าทาง clubhouse เองก็คงยังจะต้องปรับเปลี่ยนทิศทางของ business model รวมถึงฟีเจอร์ต่างๆในอนาคตตาม activity หรือ user behavior ที่เกิดขึ้นแน่ๆ
ส่วนฝรั่ง ลองเข้าไปฟังเรื่องการทำกำไรจาก Youtube แว้บๆ ก็เข้าท่าดี แต่ว่าก็ยังไม่รู้ว่าคนที่พูดนี่ใคร (วะ) ก็คือต้องใช้วิจารณญาณส่วนนึงในการฟังว่า สิ่งที่เค้าพูดน่ะจริงไหม
ความท้าทายที่สุดของ clubhouse
ในตอนนี้ในความรู้สึกเรา คือ การกรอง content ที่เกิดขึ้นมากกว่า ว่าจะมีวิธีการกรองอย่างไร ในเมื่อสามารถปกปิดข้อมูลของเราเองได้ในขั้นตอนการสมัคร รวมไปถึงการแชร์ด้วยเสียง คนที่สนทนากันจำเป็นที่จะต้องใช้วิจารณญาณพอสมควรในการที่จะรู้ว่าอะไรคือ fake และอะไรคือ fact จากสิ่งที่ได้คุยกัน
สุดท้ายแล้วสำหรับเรา เราว่าดีนะ เราชอบฟังอะไรพวกนี้อยู่แล้ว มันเพลินดี ฟังระหว่างขับรถก็ได้ ไม่ได้มีข้อจำกัดในการต้องมองจอเลย
ที่สำคัญ คือ run background ด้วย คือ เปิดแอพทิ้งไว้ แล้วมาเล่นเฟสบุคก็ยังฟังได้อยู่ มัน multitask ได้
เราเป็นคนไม่ค่อยชอบอ่าน (ความรู้) แต่ชอบฟังมากกว่า อยากให้คนมาแชร์และใช้ช่องทางนี้กันเยอะๆในอนาคต.ใครเล่นแล้ว follow กันได้นะคะ เผื่อมีโอกาสได้ discuss กันค่ะไอดี: @abaiyamook