รีวิว วัดสังกระต่าย (Wat Sang Kratai) unseen ที่น่าสนใจของจังหวัดอ่างทอง
ห่างหายไปนานกับการรีวิวพาเที่ยว เพราะสถานการณ์โควิดเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ^^”
ด้วยความที่อัดอั้นมาก เลยหาที่เที่ยวใกล้กรุงเงียบๆ เป็นเมืองผ่าน ที่คนไม่พลุกพล่านแต่มีจุดน่าสนใจ ก็ได้เจอกับจ.อ่างทอง ระหว่างการเดินทางไปที่จ.สิงห์บุรี
วัดสังกระต่าย จ. อ่างทอง
สถานที่นี้ต้องยกความดีความชอบให้สามีตัวเอง
เพราะจริงๆแล้วไม่ได้ตั้งใจเลยว่าจะไป แต่พอเข้าเขตพื้นที่จังหวัดอ่างทองแล้ว สามีก็ชวนแวะ
เนื่องจากว่าเค้าได้เคยเข้าไปถ่ายงานช่วงสัปดาห์ก่อน ถึงสองครั้งสองครา
วัดนี้เป็นวัดร้าง สร้างตั้งแต่สมัยก่อนกรุงศรีอยุธยา มีอายุราว 400-500 ปีมาแล้ว
มีการบูรณะในส่วนของพระพุทธรูป แต่โดยทั่วบริเวณยังคงสภาพเดิมไว้ แม้จะหวั่นว่ากำแพงอาจพังลงมา แต่ก็ได้รากต้นโพธิ์ที่อยู่รอบๆ โอบอุ้มโบสถ์เอาไว้จนถึงปัจจุบัน
เมื่อไปถึง ก็พบความร่มรื่นของต้นไม้ในละแวกนั้น ทางซ้ายของโบสถ์มีศาลเจ้าแม่ตะเคียนและกุมารให้กราบไหว้
ก่อนที่จะพบกับปากทางเข้าโบสถ์ พร้อมกับป้ายจากกรมศิลป์ที่กำลังจะดำเนินการนำสถานที่แห่งนี้เป็นโบราณสถานของไทยอีกแห่งหนึ่ง
(เราแอบเสียดายที่มาช้าไป เพราะก่อนหน้ากรมศิลป์จะมาสำรวจ จะไม่เจอกับไม้ค้ำยัน และป้ายเหล่านี้)
เมื่อเข้าไปที่โบสถ์จะพบกับพระพุทธรูปองค์ใหญ่ คือหลวงพ่อแก่น ซึ่งเราก็ไม่รอช้าที่จะเข้าไปกราบไหว้บรรยากาศตอนนั้นเหมือนได้หลุดไปในสมัยกรุงศรีอยุธยา เพราะทุกอย่างมีความสวยงามในแบบฉบับกรุงเก่า แถมได้กลิ่นมนต์ขลังของสถานที่และหลวงพ่อ
ซึ่งถัดจากห้องนั้นทางขวามือ จะเจอกับหลวงพ่อศรี และหลวงพ่อสุข ประดิษฐานอยู่ในห้องโถงที่ใหญ่กว่าห้องแรก
เราใช้เวลาไม่นานนักในการเดินสำรวจ เพราะโบสถ์นี้มีเพียงสองห้องนี้เท่านั้นที่มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ เนื่องจากมีการสร้างวัดใหม่ ทำให้ชาวบ้านไปทำบุญที่วัดใหม่แทนแต่โบสถ์แห่งนี้ก็ยังเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาอยู่ โดยเฉพาะผู้คนที่ต้องการบวช ก็มักจะมาเดินวนรอบโบสถ์นี้ก่อนที่จะไปวัดใหม่
ถือเป็น unseen จังหวัดอ่างทองที่เรารู้สึกคุ้มค่าที่ได้เดินทางมาให้เห็นกับตาที่หนึ่งเลย
ใครที่ผ่านไปจังหวัดอ่างทอง อย่าลืม !! แวะสักการะและดื่มด่ำวัดเก่าแห่งนี้ที่ทรงคุณค่า ย้อนรอยไปสมัยกรุงศรีอยุธยากันสัก 30 นาที