รีวิว มิดเดย์ คานาเล่ (Midday Canelé) ขนมอบฝรั่งเศสที่หาทานได้ยาก
คานาเล่ (Canelé) มีชื่อเต็มๆ คือ Canelé de Bordeaux เป็นขนมอบฝรั่งเศสรูปทรงกระบอกขนาดเล็ก ส่วนผสมมีไข่แดง แป้ง น้ำตาล เหล้ารัม (เด็กเลยไม่ควรทานนะ) วานิลลา ความสูงเล็กน้อยไม่เกิน 5 cm โดยมีกรรมวิธีการทำที่ค่อนข้างเยอะ ต้องใจเย็นๆ เพราะด้านนอกของคานาเล่ จะเป็นคาราเมลไหม้และมีความกรอบ ส่วนนี้จึงจำเป็นที่จะต้องอบนาน (แต่ถ้านานเกินไปก็ทำให้ไหม้อีก) แต่ส่วนด้านในของคานาเล่จะมีความนุ่มหยุ่น มีโพรงอากาศเล็กน้อย จัดเป็นขนมหวานสัญชาติฝรั่งเศสในยุคประวัติศาสตร์อันยาวนาน และหาทานได้ยากในปัจจุบัน
อุปสรรคของการสั่งซื้อมาทานที่บ้าน คือ ขนมที่อบสดใหม่ออกจากเตา ย่อมให้รสชาติที่ดีกว่า แต่มิดเดย์ คานาเล่พยายามเอาชนะอุปสรรคนั้น จึงออกแบบวิธีการขายเป็นแบบ “พรีออเดอร์” แบบที่ต้องรอสั่งจองล่วงหน้าเป็นรอบๆ เพื่อให้อบออกมาสดใหม่ทุกรอบ ก่อนส่งพัสดุถึงมือลูกค้า
อีกหนึ่งจุดเด่นของ มิดเดย์ คานาเล่ (Midday Canelé) คือ การใช้โมล์คอปเปอร์ในการอบ ทำให้ผิวของคานาเล่ด้านนอกมีความกรอบหนากว่าการใช้โมล์ชนิดอื่นๆ เมื่อเราได้รับ นำมาอบซ้ำอีกที ก็คล้ายกับการฟื้นคืนชีวิตความกรอบนอกนุ่มในให้กับคานาเล่กลับมาอีกครั้ง
เริ่มรีวิวในแต่ละรสชาติของคานาเล่ (Canelé) ที่สั่งมากันเลย!
เมื่อสั่งพรีออเดอร์จากทางร้านแล้ว ก็รออย่างใจจดจ่อ นานพอสมควรเพราะต้องรวมระยะเวลาส่งตรงจากเชียงใหม่ด้วย (ลืมบอกเลย ว่าร้าน มิดเดย์ คานาเล่ (Midday Canelé) อยู่เจียงใหม่นะเจ้าาา) แต่ก็ไม่นานเกินรอ ของมาถึงมือในสภาพดี๊ดี ขอบคุณขนส่งมา ณ โอกาสนี้ !
คานาเล่ (Canelé) หลากหลายรสชาติ ถูกบรรจุอยู่ในกล่องน่ารัก แปะสติ๊กเกอร์ว่า MERCI (แปลว่า ขอบคุณ) ให้ฟีลฝรั่งเศสตั้งแต่ก่อนเปิดกล่อง
เปิดออกมาแล้วก็จะพบคานาเล่หลากรสเรียงรายที่หน้าตาคล้ายกันหมดเลย แต่ไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะทานผิดรส เพราะทางร้านติดสติ๊กเกอร์ให้รู้อยู่ด้านบนในทุกๆชิ้นแล้ว
กวาดสายตามองไปที่ฝากล่องด้านใน จะเจอกับเทคนิคการอุ่นร้อนก่อนทาน
ตรงนี้เราขอแนะนำให้อุ่นสำหรับคนมีเตาอบ, หม้ออบลมร้อน หรือหม้อทอดไร้น้ำมันเท่านั้น
เพราะมีคนรู้จักนำไปอุ่นในไมโครเวฟแล้ว มันนิ่มเหลวกันจนทานไม่ได้เลยทีเดียว — ตรงนี้เตือนก่อนน้าาาาา อย่าใช้ไมโครเวฟอุ่นนะทุกคน!!
วิธีการอุ่นที่ร้านแนะนำ คือ “อุ่นให้กรอบในเตาอบด้วยอุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส นาน 5-10 นาที
ส่วนบ้านเรามีแค่หม้อทอดไร้น้ำมัน เราใช้วิธีวอร์มหม้อให้ร้อนก่อน 200 องศาเซลเซียส (วอร์มแป๊บเดียว) แล้วค่อยนำขนมลงไปวาง จากนั้นใช้อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียสนาน 5 นาที (ต้องคอยเฝ้า กลัวไหม้) ก็ได้ทานเลยยยยย
เอาล่ะ .. มาถึงตรงนี้ขอเริ่มรีวิวให้ลึกลงไปในแต่ละรสชาติกันบ้าง
เริ่มต้นด้วยคานาเล่ (Canelé) รสออริจินัล/คลาสสิค
ความกรอบนอกนุ่มในดี (ซึ่งดีในทุกรสอยู่แล้ว) เป็นรสที่ทานง่ายที่สุด เพราะไม่ได้มีส่วนผสมอื่นที่กลบความเป็นออริจินัลของคานาเล่แฝงมา ความหวานจากคาราเมลที่ไหม้ด้านนอกไม่ได้หวานมากนัก ด้านในนุ่มหยุ่น หอม ทานเพลินๆ คู่กับการจิบชาร้อนก็ไปกันได้ดี
ต่อด้วยคานาเล่ (Canelé) รสคัสตาร์ดไข่เค็ม
เราลองสั่งเพราะอยากรู้ว่ามันจะเป็นยังไง เพราะดูเหมือนว่าเป็นการมิกซ์วัตถุดิบสองสัญชาติเข้าด้วยกันเลย ซึ่งก็ต้องบอกว่าถ้าใครอยากดื่มด่ำกับความเป็นคานาเล่แท้ๆ อาจจะต้องเลี่ยงรสนี้ เนื่องจากไข่แดงใหญ่มากกก กัดไปแล้วก็เลยกลบรสชาติของตัวคานาเล่เสียหมด ทำให้ได้ความรู้สึกเหมือนเราทานไข่แดงเข้าไปเต็มฟองเสียมากกว่า ส่วนรสของคัสตาร์ดนั้นเรายังไม่ได้ฟีลลิ่งของคัสตาร์ดเท่าไหร่จากเหตุผลเดียวกัน คือ รสชาติไข่แดงมันกลบไปเสียหมดแล้ว
รสน้ำผึ้ง
รสนี้จะคล้ายคานาเล่รสออริจินัล แต่มีกลิ่นและความหวานจากน้ำผึ้งเจือเข้าไป ทำให้สีของคานาเล่เข้มขึ้นกว่าออริจินัลเล็กน้อย สายหวานน่าจะชอบรสนี้ แต่สำหรับคนที่ชอบหวานน้อยอาจจะต้องแนะนำให้เลี่ยง เนื่องจากน้ำผึ้งทำให้คานาเล่มีความหวานมากขึ้นไปอีก
รสเอิร์ลเกรย์ (Earlgrey)
เป็นคานาเล่ที่มีส่วนผสมของชาเอิร์ลเกรย์ ที่ให้ความหอมกรุ่นของชาได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน จัดว่าเป็นรสที่เราชอบที่สุด เพราะเรารู้สึกว่ามันไปกันได้ดีทั้งหมดในความเป็นคานาเล่ ไม่หวานเกินไป กรอบนอกนุ่มใน แทรกกลิ่นชาที่ไม่ขมเข้มมากนัก เป็นรสที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนได้ลอง
รสโฮจิฉะ (Hojicha)
เป็นคานาเล่ที่สังเกตได้ง่ายที่สุด เพราะมีสีดำจากโฮจิฉะ เป็นรสที่มีความเข้มข้นของชามากกว่ารสเอิร์ลเกรย์ และแน่นอนว่าสายชาจะชอบรสนี้ และถ้ายิ่งได้ทานคู่กับชาร้อนๆ จะยิ่งฟินมากขึ้นไปอีกแน่นอน
ราคาของคานาเล่แต่ละรสไม่เท่ากัน ตามนี้จ้า (ตรวจสอบราคาหน้าร้านอีกทีนะ เผื่อเค้าขึ้นราคา)
- คลาสสิค (ออริจินัล) 60 บาท
- น้ำผึ้ง 70 บาท
- ดาร์คชอคโกแลต 75 บาท
- โฮจิฉะ 75 บาท
- มัทฉะ 75 บาท
- เอิร์ลเกรย์ 75 บาท
- เมเปิ้ลซินนาม่อน 75 บาท
- คัสตาร์ดไข่เค็ม 85 บาท
- ฟิกส์ บราวน์ชูการ์ 85 บาท
- ฮันนี่ยูซุ 85 บาท
สามารถสั่งจอง พรีออเดอร์ได้ที่เพจเฟสบุคโดยตรง > ที่นี่เลย
ใครอยากลองเปลี่ยนฟีลลิ่งวันหยุดยามบ่าย จิบชาร้อนกับขนมฝรั่งเศสที่หาทานได้ยาก ต้องไม่พลาดน้า ^^
