รีวิว Kimmik ร้านกาแฟดีๆ กับเมนูกาแฟที่แหวกแนว หลากหลายไม่ซ้ำใคร
มีใครคนนึงเคยบอกว่า ท่ามกลางความโชคร้ายเราจะเห็นความโชคดีเสมอ ถ้าเรามองโลกในอีกมุมนึงและหาความโชคดีนั้นเจอ
เราว่าวันนี้เราก็หาเจอข้อนึงแหละ…
จากสถานการณ์โควิด ที่ทำให้เราไม่สามารถจะไปตะลอนหาที่กินที่เที่ยวเหมือนสภาวะปกติได้ ทำให้คนขี้เบื่ออย่างเราหงอยเหงาไปพอสมควร
นิสัยเรา คือ เป็นคนชอบกิน และต้องกินไม่ซ้ำเพราะขี้เบื่อ ทำให้เราต้องเสาะหาร้านใหม่ๆอยู่เสมอในฟู้ดเดลิเวอรี่ตามแอปฯต่างๆ
กาแฟ คือ หนึ่งในเครื่องดื่มที่เราต้องดื่มทุกวัน และเราก็เริ่มเบื่อกับเมนูซ้ำๆ
เอสเพรสโซ่
ลาเต้
คาปูชิโน่
เอสเพรสโซน้ำส้ม
ฯลฯ
ซึ่งก็มีเหมือนกันทุกร้าน
ความโชคดีที่เราเจอ คือ เราได้มาเจอกับร้าน KIMMIK ใน Grab
ตอนแรกก็เหมือนร้านกาแฟทั่วไป แต่พอเลื่อนดูเมนูเรื่อยๆไปจนถึง “Special Menu”ก็เริ่มตื่นตาตื่นใจ และรู้สึกท้าทายที่อยากจะลองชิมเกือบทุกแก้ว!!
ในส่วนของกาแฟ
เราสั่ง Iced latte, Sparkling Raspberry Americano และ Ice Piak-Poon Latte มาลอง ซึ่งแต่ละเมนูตอนเราสั่ง สามารถเพิ่มรายละเอียดได้อีกเยอะมาก สามารถเลือกได้ด้วยว่าจะเอากาแฟคั่วอ่อน คั่วเข้ม หรือคั่วกลาง
แก้วแรก คือ ลาเต้เย็น (Iced Latte)
สั่งหวานน้อย ก็ได้รสหวานที่กำลังดีสำหรับเรา กาแฟเราสั่งเป็นแบบคั่วเข้า เพราะเราชอบกาแฟนม การสั่งคั่วเข้ม เพื่อที่กาแฟจะได้ไม่โดนกลบกลิ่นและรสออกไป
อึกแรกของเรา ถือว่ากาแฟค่อนข้างดี มีรสเปรี้ยวเล็กน้อย บอดี้ปานกลาง ไม่ได้มีความขมเข้มเหมือนกับร้านอื่นมากนัก เพราะยังคงมีความละมุนของกาแฟอยู่ เทียบกับราคานี้เราบอกเลยว่าเราค่อนข้างพอใจมาก
ต่อด้วย Sparkling Raspberry Americano
เราสั่งแบบหวานน้อย แต่ไม่ได้เลือกว่าต้องคั่วเข้มแค่ไหน เลยเว้นตัวเลือกไว้ไม่ได้ระบุ ปล่อยให้ร้านเป็นคนเลือกให้เราเอง
ตอนจะสั่งนี่ก็ยังนึกสนุกว่า โซดากับกาแฟเหรอ มันจะไปกันยังไงนะ แถมยังแทรกด้วยราสเบอร์รี่อีก คิดไปคิดมา เอาน่ะ ลอง!! ไม่ลองก็ไม่รู้ น่าสนุกดี
ปรากฎว่าประทับใจมาก
ความสดชื่น คือสัมผัสแรกที่ได้เมื่อเราได้ลิ้มรส ความหอม เปรี้ยวนิด และหวานหน่อยของราสเบอร์รี่ทำให้เรารู้สึกสดชื่นมาก โซดาที่ผสมมาไม่ได้ทำให้แก้วนี้เสียรสเลยสักนิด แต่มันสร้างมิติใหม่ของกาแฟให้เราได้สัมผัสเพราะมันทำให้เรารู้สึกสนุกกับการดื่มกาแฟมากขึ้น
ในส่วนของพระเอกของเรา คือ กาแฟ มีความขมอบอวลอยู่ในปากและลำคอ ทุกส่วนผสมไม่ได้ทำให้กาแฟถูกกลบ แต่กลับเหมือนชูรสกาแฟทั้งแก้วนี้ให้มันมีมิติและสนุกแบบที่อยากจะกินต่อโดยที่ไม่อยากให้มันรีบหมดเลย แก้วนี้แนะนำจริงๆ อยากให้ทุกคนลอง!!!
ปิดท้ายเมนูกาแฟของเรา ด้วย Iced Piak-Poon Latte
มันคือกาแฟชาร์โคลในนมผสมกะทิ คล้ายกับชื่อเมนู ก็คือ “เปียกปูน”
เราเลือกหวานน้อยและคั่วเข้ม
ตอนสั่งแฟนเราบอกขนลุก มันจะไปกันได้ยังไง จะสั่งจริงๆหรอ
เราบอกต้องลอง !! เราอยากลอง เบื่อเมนูกาแฟเดิมๆแล้ว
พอได้ลองชิมแล้วก็รู้สึกอยากตบมือให้กับคนคิดเมนูนี้
มันเหมือนเป็นการนำขนมเปียกปูนมาทำในรูปแบบใหม่ คือ กลายเป็นเครื่องดื่มที่ทำให้เราดื่มได้ง่ายโดยไม่ต้องเคี้ยว
กลิ่นกะทิ คือ สิ่งแรกที่ได้รับ
ความมันของกะทิคือลำดับถัดมา
ปิดท้ายด้วยเนื้อสัมผัสของชาร์โคลที่เป็นผงๆในแก้ว ที่ตอกย้ำความเป็นขนมเปียกปูนให้เราได้อินมากยิ่งขึ้นไปอีก
สำหรับเมนูนี้ใครอยากสัมผัสกับรสกาแฟมากๆอาจผิดหวัง
เพราะส่วนผสมกะทิมันโดดเด่นมาก ทั้งกลิ่น รสและความมัน ทำให้ไม่ได้กลิ่นกาแฟเลย
มีข้อควรระวังอย่างหนึ่งว่า ถ้าเป็นคนที่ไม่ได้ชอบกินขนมหวาน หรือไม่ชอบกินกะทิ อาจยี้กับเมนูนี้เลย (สามีเราคือหนึ่งในนั้น)
แต่เรากลับชอบนะ เพราะเราชอบกินกะทิ แต่ติดอยู่นิดเดียวตรงที่ พระเอกของเรามันหายไป (กาแฟ) ถ้ามีการปรับปรุงสูตรลดสัดส่วนของอะไรบางอย่างลงจนกาแฟเด่นขึ้นมาได้อีกนิด จะลงตัวมากๆเลย
Kimmik ไม่ได้มีดีแค่กาแฟ
แต่มีของหวานที่รสชาติดีไม่แพ้กัน
เราสั่ง Cranberry Cream Scone โดยเลือกอุ่นร้อนจากร้านมาเลย
เป็นครั้งแรกที่เราได้กิน Scone
มันมีความกรอบนอก นุ่มใน เนื้อแน่น หอมเนย ไม่หวาน
แทรกเปรี้ยวเล็กๆ ด้วยแครนเบอร์รี่
.
สัมผัสเหมือนกินคุ้กกี้เมื่อกัดครั้งแรก
แต่ด้วยความที่ด้านในมีความชุ่มของเนยและเนื้อนุ่ม มันเลยไม่ใช่คุ้กกี้แล้ว
พอกัดแล้วเคี้ยวรวมกัน มันเลยมีแครกเล็กๆให้กรอบ และเนื้อด้านในนุ่มๆ คลุกเคล้ากันทำให้ขนมชิ้นนี้กินแล้วไม่น่าเบื่อ
.
เราเป็นคนไม่ชอบกินคุ้กกี้ เพราะมันแข็ง
พอได้กิน Scone เลยชอบมากเลย
ถ้ากินกับชาร้อนน่าจะเข้ากันสุดๆ
.
.
สรุปว่าเราประทับใจกับความพิถีพิถันของร้านนี้
ถ้าสถานการณ์โควิดหายไปหรือดีขึ้นกว่านี้ เราจะไปบุกถึงร้านเลย เพราะร้านสวยมากกก (ดูจากรูป)
ใครอ่านจบแล้วอย่าพลาดนะ สั่งเลย!!