รีวิว Wisdom International Buffet 1,176 บาท (NET) ต่อคนกับความอิ่มคุ้ม เกินราคาพร้อมวิธีการจองโต๊ะแบบได้กินแน่นอน!!

เบื่อไหมกับบุฟเฟ่ท์ที่มีแต่อาหารสัญชาติเดียวทั้งไลน์

บุฟเฟ่ต์อาหารทะเล ที่มีแต่อาหารทะเล

บุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น ที่มีแต่อาหารญี่ปุ่น

บุฟเฟ่ต์ติ่มซำ ที่มีแต่ติ่มซำ และอาจมีไฮไลท์บ้าง คือ เป็ดปักกิ่ง

ฯลฯ

ถ้าคุณเบื่อกับบุฟเฟ่ต์ที่ต้องเลือกสัญชาติของอาหารอย่างใดอย่างหนึ่ง เราขอนำเสนอรีวิวในวันนี้เลย

Wisdom International Buffet – บุฟเฟ่ต์นานาชาติ

บุฟเฟ่ต์ Fine Dining Buffet ใจกลางสยาม ที่รวมอาหารไทย, จีน, ญี่ปุ่น, เวสเทิร์น และตบท้ายด้วยของหวานที่รสชาติดี คุณภาพเยี่ยมไปเสียทุกอย่างเลย!!!!

ร้านตั้งอยู่ที่สยามสแควร์วัน ชั้น 5 เดินทางสะดวกสบายด้วย BTS สถานีสยาม หรือจะขับรถมาจอดก็ได้หมดจ้า ราคาคนละ 1,176 บาท (NET) มีเวลา 2 ชั่วโมงในการกิน แต่สั่งอาหารได้แค่ 1.30 ชั่วโมง (เล็งดีๆน้า)

สเตปแรก !! ถ้าคิดที่จะมาทานร้านนี้ แนะนำว่าอย่า WALKIN ดุ่มๆเข้ามาเด็ดขาด!

เพราะคุณจะเจอกับคิวหน้าร้านมหาศาลประหนึ่งว่าร้านแจกให้ทานฟรี

มีทั้งลูกค้าที่นั่งรอหน้าร้านและยืนรอ .. เราเคยเสี่ยง Walkin ไปตั้งแต่ร้านเปิด คือ 10 โมง แต่ได้รับคำตอบว่า “ต้องรอช่วงบ่ายนะจ๊ะ เพราะเต็มยาวววววไปหมดแล้ว”

วิธีที่คุณจะทานร้านนี้แบบไม่ต้องวัดดวง คือ การจองโต๊ะผ่านไลน์ของวิสดอม (@WisdomBuffet)

  1. Add Line @WisdomBuffet หรือคลิก
  2. กดปุ่มจองคิวล่วงหน้า
  3. แจ้งรายละเอียด วันเวลาที่ไป
  4. จะต้องมีการโอนเงินมัดจำล่วงหน้า 50% นะ แล้วก็ไปจ่ายที่หน้าร้านที่เหลือ อย่าลืมเก็บสลิปโอนเงินไว้ดีๆ เพราะต้องใช้ยื่นตอนจ่ายเงินหน้าร้านด้วยจ้า
  5. จบแล้ว ง่ายๆมากๆ ตั้งหน้าตั้งตารอวันที่จะได้กินเลย

แล้วก็มาถึงวันที่เราได้กิน!

เราจองไว้รอบ 10 โมง ซึ่งเป็นเวลาห้างเปิดพอดี – -” อยากจะแนะนำให้คนมารอบเดียวกับเรานะ เพราะทุกอย่างดีไปหมดเลยเพราะเป็นลูกค้าลอตแรกของวัน พนักงานยังยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่เหนื่อย ไม่เพลีย (น่าจะนึกออกเนอะ ว่าดียังไง )

ถึงเราจะจองผ่านไลน์แล้วเราก็ต้องรีบไปให้เร็วที่สุดนะ

เพราะว่าการไปเช็คอินหน้าร้านของเราโดยการยื่นหมายเลขการจอง ก็ต้องต่อคิวอยู่ดี T . T

คือ สมมติในรอบ 10 โมงมีลูกค้าจองมา 10 โต๊ะ เราไปช้า เราก็กลายเป็นอันดับที่ 10 ที่เค้าจะเรียกเข้าไปนะ เพราะฉะนั้น รีบไป !! (ทุกอย่างดูรีบไปหมดเลยเนอะ 555)

พอไปถึงก็ยื่นหน้าจอที่เราจองไว้ให้พนักงานดู พนักงานก็จะแจ้งกลับมาว่าเราได้คิวเข้าร้านเป็นคิวลำดับที่เท่าไหร่ ก็ต้องรอตามคิวที่เรียก

อย่าลืมแคปหน้าจอหมายเลขการจองไว้นะ สำคัญมาก**

เพราะต้องใช้ทั้งตอนเช็คอิน และตอนจ่ายเงิน ไม่อย่างนั้นเราจะไม่มีหลักฐานนะ ว่าเราจ่ายเงินไปแล้ว 50%

เอาล่ะ !! พอถึงคิวเราแล้วก็ลุยเลย

บรรยากาศร้าน

บรรยากาศร้านโอเค ไม่ได้หรูหรามากมาย แต่ก็สะอาดสะอ้าน และเพดานสูงดี

ระหว่างโต๊ะก็มีพื้นที่พอเดินได้ เราโชคดีที่ได้โต๊ะริมในสุด ค่อนข้างเป็นส่วนตัวมากๆ และไม่ติดกับใคร เป็นโซฟาด้วย (นี่คือข้อดีของการรีบไป และเข้าเป็นลูกค้ารอบแรกของวัน)

ระบบบริหารจัดการร้านค่อนข้างดี เค้าจะให้เราสั่งผ่านแท็ปเล็ต จิ้มเอาได้เลยว่าจะเอาอะไรบ้าง

มีแยกหมวดหมู่ตามสัญชาติอาหารไทย, จีน, ญี่ปุ่น, เวสเทิร์น และของหวาน ก็จิ้มเอาเลยตามอัธยาศัย โดยสามารถส่งรายการได้ครั้งละ 10 รายการ

สั่งอาหารที่แทปเล็ต
อาวุธครบมือ

ข้อดีของที่นี่ที่เรารู้สึกประทับใจที่สุด คือ รออาหารไม่นานเลย

เค้ามีการบริหารจัดการครัวที่ดีมาก อาหารบางอย่างคิดว่าน่าจะทำไว้ล่วงหน้า แต่ก็ไม่มีจานไหนที่เสิร์ฟมาแล้วชืด เหมือนอาหารอุ่นร้อนจากร้านอื่นๆเลย

ถ้ามองไปในครัว จะเป็นครัวที่มีกระจกใสตลอดแนว

และเท่าที่นับด้วยตาเปล่า ในครัวมีพ่อครัวอยู่ไม่ต่ำกว่า 10 คน ขะมักเขม้นกันอยู่ในนั้น ซึ่งการที่ติดกระจกใสแบบนี้เป็นเครื่องการันตีว่า อาหารทุกจานจะไม่คลาดสายตาเรื่องของความสะอาดและความใส่ใจจากลูกค้าได้เลย (แหงสิ ลูกค้ามองเข้าไปก็เห็นแล้ว ว่าคุณรักษาความสะอาด และมีขั้นตอนการทำอาหารที่ดีแค่ไหน)

ในวันนั้น เราทานอาหารได้ไม่เยอะมาก แต่ก็ประทับใจแทบทุกจาน

จะขอไล่เรียงรีวิวรสชาติอาหารเลยแล้วกันเนอะ

ซี่โครงหมูตุ๋น

เป็นซี่โครงที่ผ่านการหมักจนนุ่ม นุ่มจนลืมไปเลยว่าเป็นเนื้อส่วนซี่โครง เพราะเป็นเนื้อสัมผัสที่ดี แต่ในเรื่องของรสชาติสำหรับเราแล้วรสชาติยังอ่อนไปนิด ถ้าเพิ่มเค็มอีกนิดจะเพอร์เฟคเลย

ซี่โครงหมูตุ๋น

หมูกรอบ

จานนี้ห้ามพลาด และถ้ามองไปทางไหนทุกโต๊ะก็จะสั่งจานนี้เช่นกัน (เราสั่งซ้ำหลายรอบเลย) หมูกรอบของที่นี่ หั่นเต๋ามาพอดีคำ นุ่มฟูไม่ติดมันจนเยอะเกินไป ทำให้เคี้ยวเพลินกรอบนอกนุ่มใน อร่อยมาก ยกนิ้วให้เลย!

หมูกรอบ กรอบนอกนุ่มใน ห้ามพลาด!

คานิมิโสะ (Kanimiso) มันปูย่าง

เมนูนี้ก็เป็นอีกเมนูที่เราสั่งซ้ำหลายรอบเช่นกัน มันปูดีมากกกกกกกก มากที่สุดเท่าที่เคยกินมา มีความหวาน หอม อร่อยมาก และไม่เลี่ยนเลย อร่อยยกนิ้ว!

Kanimiso (คานิมิโสะ) – มันปูย่าง ต้องสั่งนะ !

ทาโกะซาชิมิ (หมึกยักษ์)

สำหรับเรา จานนี้เราเฉยๆ .. ทาโกะของที่นี่รสชาติยังไม่ได้แบบว่ากินแล้วอยากกินอีก เมนูนี้ไม่ได้สั่งซ้ำ

ทาโกะซาชิมิ (หมึกยักษ์) – เฉยๆสำหรับเรา

เป็ดปักกิ่ง

เป็ดปักกิ่ง 1 ที่จะมีแค่ 2 คำเท่านั้น เราก็สั่งรัวๆกันมาเลย เมนูนี้อร่อยนะ อร่อยกว่าหลายๆภัตตาคารที่เคยทานมาเลย

เป็ดย่างมากรอบ และแล่มาบางเฉียบ กินกับแป้งที่ไม่มีความมัน (บางภัตตาคาร แป้งหนาและมันแผล่บ อันนั้นเราเกลียดมากเลย) อร่อยดี น้ำจิ้มรสชาติกำลังดี แต่มีกลิ่นเครื่องเทศบางอย่างที่โดดไปนิดสำหรับเรา น่าจะเป็นพะโล้ (เดา) แต่ถ้าใครชอบกลิ่นเครื่องเทศแรงๆเราว่ารักเมนูนี้เลยแหละ ซึ่งเราก็รักนะ สั่งจนคิดว่าน่าจะกินเป็ดไปสองตัว 555

ที่สำคัญคือจัดมาเป็นคำๆให้แล้ว ไม่ต้องมาคลี่แป้งเองให้เลอะ ทานง่ายมาก !

กุ้งดองซีอิ๊ว

กุ้งสด ฉ่ำหวาน ดองในซีอิ๊ว เสิร์ฟมาพร้อมกับกระเทียมฝานบางเพิ่มรสกลมกล่อม สำหรับเราก็ว่าอร่อยดี แต่ก็ติดที่กลิ่นเครื่องเทศหรืออะไรบางอย่างอีกแล้ว (เป็นคนกินอะไรที่ผิดกลิ่นยาก) แต่น่าจะอร่อยสำหรับหลายๆคนนะ

กุ้งดองซีอิ๊ว

Wagyu Steak with Traffle Sauce Topped Foie Gras -เนื้อวากิวเสิร์ฟพร้อมซอสเห็ดทรัฟเฟิลท๊อปด้วยฟัวการ์ส

ถือเป็นไฮไลท์เมนูของที่นี่ ซึ่งตอนสั่งเราสามารถเลือกความสุกของเนื้อได้ว่าจะ rare/medium rare/ well-done

สามีเราเลือกความสุกที่ Medium Rare (ข้างนอกสุกผิวน้ำตาลเข้ม ข้างในยังเห็นเป็นเนื้อแดงแบบฉ่ำ)

ด้วยความที่เราไม่กินเนื้อ เลยต้องบรรยายเมนูนี้จากการชิมของสามี ซึ่งได้ความว่ายังไม่ “ว้าว” สำหรับเค้าเท่าไหร่ เป็นความรู้สึกเฉยๆ กับรสชาติและคุณภาพของเนื้อ

และแอบผิดหวังกับฟัวการ์สที่ท๊อปมา เพราะเหมือนเป็นแค่เศษ ไม่เต็มปากเต็มคำชิ้นโตเหมือนอย่างในรูปที่ร้านโฆษณาเท่าไหร่ แถมย่างมาแห้งเสียจนเหมือนตับไก่ เสียรสชาติของวัตถุดิบไปเลย

Wagyu Steak with Traffle Sauce Topped Foie Gras -เนื้อวากิวเสิร์ฟพร้อมซอสเห็ดทรัฟเฟิ้ลท๊อปด้วยฟัวการ์ส

กระเพาะปลาน้ำแดงเป๋าฮื้อ

เราสั่งเมนูนี้เพื่อเอามาซดให้ลื่นคอ แต่ก็ค่อนข้างผิดหวังเพราะมีกลิ่นอะไรบางอย่างแทรกมา (อีกแล้ว) ลักษณะเหมือนกลิ่นไม้ๆ บอกไม่ถูก ไม่รู้เป็นเพราะเค้าทำทิ้งไว้ในถังไม้หรืออะไรหรือเปล่าถึงติดกลิ่นนี้มา

ส่วนรสชาติค่อนไปทางจืด เราพยายามใส่จิ๊กโฉ่วลงไปแล้วก็ยังไม่สามารถกู้รสชาติขึ้นมาได้ ก็เลยพยายามกินให้หมดไปเพราะเสียดายของ

กระเพราะปลาน้ำแดงเป๋าฮื้อ

หอยนางรมสุราษฎร์ธานี

จานนี้เสิร์ฟมาแบบพร้อมทาน ท๊อปมาด้วยหอมเจียว น้ำพริกเผาและยอดกระถิน รสชาติดีทีเดียว เพราะหอยมีความสด หวาน ซึ่งจริงๆเราคิดว่ากินแค่หอยก็น่าจะอร่อยมากแล้วล่ะ แต่เสิร์ฟมาแบบนี้ก็กินสะดวกดี

หอยนางรมสุราษฎร์ธานี เสิร์ฟมาพร้อมทาน

ซุปเห็ดทรัฟเฟิล เสิร์ฟพร้อมขนมปังชีส

ซุปเห็ดทรัฟเฟิลรสชาติดีมากกกกกกก มีความหอมของเห็ดทรัฟเฟิลที่ทุกคนก็น่าจะรู้ดีว่ามันอร่อยและ(แพง) แค่ไหน ^^” เป็นอีกเมนูที่แนะนำให้สั่ง เพราะอร่อยจนเราต้องสั่งซ้ำเลย

ซุปเห็ดทรัฟเฟิล เสิร์ฟพร้อมขนมปังชีส

Souffle Pancakes -แพนเค้กซูเฟล่

อันนี้ดี .. ดีแบบดีมากจริงๆ (อร่อยกว่าร้านขนมหวานเจ้าดังไปอีกกกกก)

ซูเฟล่เนื้อนุ่ม ฟู เนียนละลายในปาก สมเป็นตัวเอกของจาน เสิร์ฟพร้อมครัมเบิ้ล ให้ texture ที่แตกต่างแบบแครกเกอร์เล็กๆ กินคู่ไปกับไอศกรีมวานิลลาหอมกรุ่น เนื้อเนียนแบบฉ่ำเย็น โอ๊ยยยย ….. ฟินนนนนนนน

แทรกด้วยราสเบอรี่กับบลูเบอรี่เล็กน้อย ตัดความเลี่ยนแนมด้วยวิปครีมเนื้อแน่น นุ่ม แบบที่ชิมแล้วก็รู้วัตถุดิบว่าดีเยี่ยม ดีย์ !!! ให้ร้อยคะแนนเต็มเลย

คือดีจนคิดว่า ครั้งหน้าถ้าไปกินคงเผื่อท้องไว้สำหรับของหวานเยอะๆกว่านี้อ่ะ คิดดู

Souffle Pancakes -แพนเค้กซูเฟล่ คือดีย์ย์มากกกกก

bingsu melon cheesecake – บิงซูเมลอนชีสเค้ก

นี่ก็ดีอีกแล้ว ดีมากกกกกกกจริงงงงงๆ

บิงซูเนียนละเอียดจนนุ่ม มาพร้อมกับกลิ่นเมลอนฉ่ำๆแบบจัดเต็ม เป็นการล้างปากที่สมบูรณ์แบบที่สุดเลย อร่อยมากๆ ของหวานที่นี่ห้ามพลาดเลยนะ

สามีบอกว่ามีบางโต๊ะสั่งของหวานเต็มไปหมดเลย เพราะสาเหตุนี้เอง เหมือนมาเพื่อมากินของหวานโดยเฉพาะก็มี !!

bingsu melon cheesecake – บิงซูเมลอนชีสเค้ก ดีย์ย์ สั่งเลย !!

จริงๆ อย่างที่เกริ่นไปว่ามีอีกหลายเมนูเลยที่เราพลาดไม่ได้กิน เกิดจากวันนั้นไม่ค่อยได้นอนเต็มอิ่ม เลยกินอะไรไม่ค่อยลง

โอกาสหน้าคงได้แก้ตัวกันอีกรอบ ใครยังลังเลว่าจะไปดีไหม ไม่ต้องลังเลหรอก เพราะลำพังแค่จองโต๊ะก็ยากละ 555 ถ้ามัวแต่ลังเลก็คงคิดว่าไม่ได้กินแหละจ้าาา

คนเคยไปกินอย่างเรายังอยากไปซ้ำเลย จะลังเลทำไม เนอะ !! จองจ้ะ !!

Author: AbaiyaMook